SEO คืออะไร ย่อมาจากคำว่าอะไร มีวิธีการทำอย่างไร แนะนำอย่างละเอียด 2023

SEO-คืออะไร

Search Engine Optimization (SEO)

SEO คืออะไร ? ย่อมาจากคำว่าอะไร ? เดี๋ยววันนี้ Maewsom จะมาอธิบายความรู้ SEO ให้อ่านกันแบบง่าย ๆ ก็หวังว่า สิ่งที่เขียนมาคงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ทุกคนนะ

ตัวอย่างการจัดอันดับบน-Google
ตัวอย่างการจัดอันดับบน Google

หลายคนเคยสงสัยใช่ไหมล่ะว่า .. เว็บไซต์เหล่านี้ ขึ้นมาติดอันดับหน้าแรกบน Google ได้อย่างไร จริง ๆ วิธีการนี้ถูกเรียกว่า การทำ SEO นั่นเองครับ

.. ว่าแต่การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นั้นวิธีการทำแบบไหนบ้าง เดี๋ยววันนี้ทาง “ แมวส้ม ” จะอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดเลยครับ ว่าเขาทำกันได้อย่างไร รับลองว่าถ้าหากว่าอ่านบทความนี้เสร็จ แล้วเพื่อน ๆ จะเข้าใจเลยว่า.. SEO คืออะไร? อย่างแน่นอนครับ

SEO Search engine optimization

SEO คืออะไร ?

SEO หรือ Search Engine Optimization คือ กระบวนการทำการตลาดออนไลน์ ผ่านการค้นหาข้อมูลของ Search Engine นั่นเองครับ  

SEO หมายถึงอะไร?

ถ้าอ่านกันแบบตรงตัว คำว่า SEO ก็ถูกย่อมาจากคำว่า 

Search = คือการค้นหา

Engine = เครื่องมือการค้นหาEngine

Optimization = คือการปรับแต่ง

รวมกันกลายเป็นคำว่า Search Engine Optimization นั่นเองครับ”

ยิ่งเราทำอันดับให้เว็บไซต์ของเราขึ้นไปติดอันดับบน Google มากเท่าไร ยิ่งทำให้มีคนเห็นสินค้า หรือเว็บไซต์ของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งมันส่งผลทำให้ กิจการของเราสามารถสร้าง ยอดขาย / กำไรได้ในท้ายที่สุดนั่นเองครับ

ข้อสรุป SEO คืออะไร?

SEO หมายถึง เครื่องมือการค้นหาและการปรับแต่งให้เว็บไซต์ของเรา ถูกหลักของ Google นั่นเอง

ซึ่งปัจจุบัน Google มีวิธีการจัดอันดับมากกว่า 300 ปัจจัย แต่จริง ๆ แล้ว สำหรับตัวผมเอง การทำ SEO คือ การแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้งานเพื่อที่จะให้ ผู้ใช้งานได้รับข่าวสาร และสิ่งที่ต้องการกลับไป เท่านั้นเองครับ

ในกรณีที่เราทำถูกต้อง ทำตามกฏของ Google ก็เพียงพอต่อการทำอันดับได้แล้วครับ !

แต่การที่ผมจะพูดแบบนี้มันก็เหมือนจะดูง่ายจนเกินไป . . เพราะการทำ SEO นั้นมีปัจจัยอะไรหลากหลายครับ เดียวเรามาขยายความกันต่อ .. ดีกว่าครับ จะได้เข้าใจกระบวนการทำ SEO มากยิ่งขึ้น

การที่จะทำให้เว็บไซต์ ขึ้นมาติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ได้ ก็จะมีทั้งหมด 2 วิธีครับ

  1. Google Ads
  2. การทำ SEO

Google Ads

  • เป็นวิธีการที่เราไปซื้อโฆษณาเพื่อให้เว็บของเราขึ้นไปแสดงบน Google ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มีหน้า Landing Page เลือกพื้นที่ หรือกลุ่มเป้าหมาย ก็สามารถลงโฆษณาได้ทันทีครับ

    ซึ่งตำแหน่งบนหน้า Google จะมีทั้งหมด 7 ตำแหน่ง คือบน 4 ล่าง 3 ซึ่งการทำ Google Ads จะนับเป็นแบบ CPC (ต้นทุนต่อคลิก) เป็นเมทริกซ์ที่คำนวณจำนวนเงินที่แบรนด์จ่ายสำหรับยอดคลิกโฆษณาและใช้เพื่อช่วยกำหนดคุณภาพและกำไรจากโฆษณา

การทำ SEO

  • การทำ SEO จะแตกต่างออกไปครับ เพราะมีเงินก็ไม่สามารถซื้อตำแหน่งได้ครับ ทุกสิ่งทุกอย่างการทำอันดับ จะขึ้นอยู่ที่ Keyword , Content รวมถึงการทำ Backlink ซึ่งกระบวนการทำ SEO จะต้องใช้ระยะเวลาในการทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในระยะยาวนั่นเองครับ

    เทคนิคการทำ SEO ในสมัยนี้ ก็ไม่ได้ยากเหมือนเมื่อก่อนครับ เพียงแค่คุณปรับปรุง Content ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน รวมถึงการสร้าง เนื้อหาที่สดใหม่ และหมั่นหาพันธมิตร หรือ Backlink ที่มีความน่าเชื่อถือ เข้ามาในเว็บไซต์เรื่อย ๆ และคอยเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์จนทำให้ Google เห็นว่าเว็บของเรานั้น มีประโยชน์กับผู้ใช้งาน เพียงเท่านี้การทำอันดับ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากต่อไปแล้วครับ…

ปัจจัยการติดอันดับ SEO มีอะไรบ้าง ?

เอาจริง ๆ ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัดเลยว่า ปัจจัยในการทำอันดับบน Google ที่สามารถทำให้ขึ้นได้ 100 % นั้นมีอะไรบ้าง แม้แต่พนักงาน Google ระดับสูง ก็ยังไม่สามารถ คอนเฟิร์มได้

และนั่นเอง การทำ SEO มันเลยยากตรงนี้ ในกรณีที่เราทดสอบ แล้วมันบังเอิญอันดับติดดี ก็สามารถใช้เทคนิคนี้ ทำ SEO ให้กับเว็บไซต์ของตัวเองได้ทันที โดยที่ไม่ต้องไปจ้างใคร !!

ซึ่งปัจจุบันนี้การทำ SEO จะมีอยู่ 5 อย่างครับ

สิ่งแรกที่เราควรรู้เป็นอันดับแรกก่อนเริ่มทำ SEO ก่อนอื่นเราจะต้องรู้ก่อนครับว่า Google มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

ถ้าจะพูดแบบง่าย ๆ การทำงานของ Google จะมีทั้งหมด 3 อย่างดังนี้ครับ

1.การเก็บข้อมูล (Crawl)

โดยทาง Google จะส่ง Google Bot วิ่งเข้าไปเก็บข้อมูลตามเว็บไซต์ต่าง ๆ บนทั่วโลก และส่งข้อมูลเหล่านั้นเข้าไปสู่ระบบกลางของเซฟเวอร์

2.จัดทำดัชนี (Indexing)

หลังจากที่ Google ได้ข้อมูลมาแล้ว ทาง กูเกิลก็จะทำการวิเคราะห์ แยกเนื้อหา ว่าโพสต์เหล่านั้นมันเกี่ยวข้องกับอะไร

ยกตัวอย่างเช่น

โดยวิธีการแยกของ Google ก็แสนจะเรียบง่าย ถ้าบทความไหนเขียนถึงเรื่องไหน ก็จะเอาไปรวมกันเอาไว้ด้วยกัน

อย่างภาพตัวอย่างดังข้างล่างนี้ครับ

ถ้าหากว่าเราแยกบทความออกเป็นแต่ละแบบ ก็จะทำให้ Google จัดการกับ Content ของเราได้ง่ายมากขึ้น ถ้าข้อมูลเยอะ ไม่แนะนำให้เขียน แบบรวม เพราะว่าทาง Google จะไม่สามารถแยกออกได้ ว่าบทความนี้มันเด่นอะไร ถ้าหากทำแบบที่แมวส้มบอก จะช่วยให้การทำ SEO นั้นง่ายขึ้นมาก ๆ ซึ่งมีคนตกม้าตายเรื่องนี้หลายคนแล้ว ดังนั้นระวังเรื่องนี้ให้ดี

3.ประมวลผลจัดอันดับ (Ranking & Result)

หลังจากที่แยกบทความเสร็จแล้ว ทาง Google ก็จะมาใช้ระบบ algorithm มาคำนวน ประมาณว่าใครเขียนดีสุด ข้อมูลครบถ้วนมากที่สุด มีโครงสร้างดีที่สุด User รักที่สุด ก็จะได้อันดับที่ดีต่อไปครับ ซึ่งตรงนี้หลายปัจจัยมาก เดียวจะเล่าให้ฟังตอนหลังนะครับ เพราะเรื่อง SEO จะข้ามขั้นไม่ได้ครับ ต้องเริ่มตั้งแต่พื้นฐานก่อน ดังนั้นอย่าใจร้อน !

กระบวนการทำ SEO แบบพื้นฐานจะแบ่งออกเป็น 4 อย่าง

  • Research keyword
  • Web Structure
  • On-Page
  • Off-Page

Research Keyword (ค้นหา Search Volume )

การทำ Research Keyword ถือว่าเป็นกระบวนการที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการทำ SEO เลยก็ว่าได้ครับ.. ถ้าหากว่าเราวางแผนไม่ดี หรือเลือก Keyword ผิด ชีวิตเปลี่ยนแน่นอนครับ

เพราะบางครั้ง เราไม่สามารถสู้กับคู่แข่งได้แบบตรง ๆ ได้ ดังนั้นเราก็สามารถเลือก กลุ่มคำ หรือ keyword long tail เข้าไปสู้ได้ก่อนครับ

การ Research Keyword คือการหากลุ่มคำหรือ วลี ในสิ่งที่ User ใช้ค้นหาในระบบ Google แล้วเอาคำเหล่านั้นมาตอบโจทย์ในรูปแบบ Content และทำให้ติดอันดับบนหน้าการค้นหา

เดียวเร็ว ๆ นี้ผมจะเขียนบทความ Research Keyword คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO มาให้อ่านกันนะครับ

Web Structure SEO

Web Structure (โครงสร้างเว็บไซต์ )

สร้างเว็บไซต์ ให้เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลของ Google จัดลำดับความสำคัญ แยกหมวดหมู่ ให้ชัดเจน หรือทำยังไงก็ได้ ให้ User เข้าใจเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เพราะถ้าวางเรื่องนี้ไม่ดี มีผลอย่างมากในการทำ SEO ครับ

หลายคนอาจจะมองข้ามแต่เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ เพราะการแยกหมวดหมู่จะทำให้ Google ทราบว่า เนื้อหาเราเกี่ยวข้องกับอะไร มีผลต่อความน่าเชื่อถือของ กูเกิล ยิ่งเว็บเหล่านั้น เป็นเว็บที่เขียนบทความเกี่ยวกับ SEO ก็มักจะมีอันดับที่ดีกว่าเว็บที่เขียนเรื่อง SEO สัก 1-2 เรื่องอย่างแน่นอน

– ปัจจัยภายใน (On-page)

– ปัจจัยภายนอก (Off-page)

SEO off-page หรือที่ถูกคนในวงการเรียกกันบ่อย ๆ ก็คือ Backlink ถ้าจะพูดแบบภาษาบ้าน ๆ มันก็เหมือนกับการโหวตคะแนน หรือ การให้เครดิตนั่นเอง ยิ่งคนที่ให้เครดิตเรา เป็นเว็บใหญ่ เราก็จะได้ความน่าเชื่อถือจาก Google มากยิ่งขึ้น !

แต่ส่วนมากการที่เราจะได้ Backlink แบบธรรมชาติ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าหากว่า เนื้อหาของคุณไม่ว๊าว จนแบบว่า โอ้โห ชีวิตนี้คงไม่ได้เจออีกแล้ว

วิธีการทำ SEO ฉบับ 2023

การทำ SEO สมัยนี้ถือว่าง่ายกว่าเมื่อสมัยก่อนมากเลยครับ เพียงแค่เรา สร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์

โดยคำนึงถึง User (ผู้ใช้งาน) เป็นหลัก”  ก็สามารถขึ้นไปติดอันดับต้น ๆ ของ Google ได้แล้วครับ

ขั้นตอนการปรับ On-page ให้ได้ผลดี

ที่เห็นข้างล่าง เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น เพื่อให้เห็นภาพนะครับ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปใส่ หัวข้อ Title , Description ได้จาก Plugin ช่วยเหลืออย่าง seo yoast

แนะนำให้อ่านต่อ : รวม 7 Plugin SEO ที่คิดที่ดีที่สุด คนทำ SEO ห้ามพลาดเด็ดขาด !

Title : รับทำ SEO รายเดือน ในกรณีอันดับไม่ติด คืนเงิน 100% ( จะต้องมี Keyword )

Description : รับทำ SEO แบบรายเดือน ในราคาถูก ในกรณีไม่ส่ง report ไม่คิดเงิน การันตีลูกค้ามากกว่า 200 เจ้า

( Description จะต้องมี Keyword หรือกลุ่มคำที่เกี่ยวข้อง แทรกเข้าไปด้วย)

SEO ช่วยในการทำธุรกิจออนไลน์อย่างไร

ต้องบอกว่า . .การทำตลาดด้วย SEO หรือ (SEO Marketing) เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันครับ เพราะว่าไม่ว่าใคร ก็มักจะหาสินค้า หรือสิ่งที่ตัวเองอยากได้บน Google อยู่แล้วครับ

SEO สำคัญอย่างไร ทำไมต้องทำ เอสอีโอ

เรื่องนี้ไม่ต้องบอก ก็พอรู้ ! ใช่ไหมว่า.. ปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะหาอะไร หรือจะเปรียบเทียบราคาอะไร สิ่งแรก ก็คงจะต้องนึกถึง Google อย่างแน่นอน

และมันคงจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหมละ ถ้าหากว่าเว็บเรา ขึ้นไปติดอันดับ ต้น ๆ ของ Google

ค้นหาปุ๊บ เจอเว็บเราปั๊บ มันก็มีโอกาสที่จะขายของได้มากกว่า คนอื่น นั่นจึงทำให้หลายธุระกิจเริ่มเข้ามาในวงการทำ SEO มากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ